ใส่เลนส์กรองแสง หรือ เลนส์ UV Cut ดีกว่ากัน?

หมอได้รับคำถามเรื่อง “เลนส์กรองแสง” ค่อนข้างบ่อย…

ในบทความนี้ หมอจะอธิบายดังนี้นะคะ

“Visible light” คือ คลื่นแสงที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่า (แดง-ม่วง)

Ultraviolet (UV)” คือ รังสีที่มีความถี่และพลังงานสูงกว่า visible light “ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า” และเป็นสาเหตุของโรคตาหลายโรค เช่น ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม

ซึ่งคุณสมบัติสำคัญที่สุดของเลนส์คือ ต้องป้องกันรังสี UV ได้ 99-100% หรือระบุว่า UV 400 (ตัด UV ที่ความยาวคลื่นสั้นกว่า 400 nm) ก็ได้เช่นกัน

สีของเลนส์ไม่มีผลต่อการป้องกัน UV ไม่ว่าจะเลนส์ใสหรือเลนส์สีเข้ม สามารถป้องกัน UV ได้เหมือนกัน

เพียงแต่เลนส์สีเข้มหรือเลนส์กรองแสง จะช่วยกรองแสงที่เรามองเห็นได้ (visible light) จึงทำให้รู้สึกสบายตามากกว่าเวลาที่ออกกลางแจ้งหรือในที่ๆ แสงจ้า

โดยปกติแล้วเมื่อเราใส่เลนส์สีเข้มหรือเลนส์กรองแสง >> แสงจะเข้าตาลดลง >> 👁 รูม่านตา (pupil) จะขยายใหญ่ขึ้น

แต่ถ้า “เลนส์กรองแสง” นั้น ไม่สามารถป้องกัน UV ตามมาตรฐาน เมื่อรูม่านตาใหญ่ขึ้น จะยิ่งทำให้ UV เข้าสู่ดวงตามากขึ้นและก่อโรคได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับอวัยวะที่อยู่หลังรูม่านตา เช่น เลนส์ตา (โรคต้อกระจก) และจอประสาทตา (โรคจอประสาทตาเสื่อม) 

หมอแนะนำเรียงตามลำดับความสำคัญของการเลือกใช้เลนส์ดังนี้นะคะ
  1. เลนส์ต้องป้องกัน UV ได้ตามมาตรฐาน คือ “UV cut 99-100%”
  2. สีของเลนส์ไม่มีผลต่อการป้องกัน UV ดังนั้นเลนส์ใส, เลนส์เปลี่ยนสี, หรือเลนส์กันแดดสีเข้ม สามารถป้องกัน UV ได้เหมือนกัน สามารถเลือกได้ตาม lifestyle และการใช้งานของแต่ละคนค่ะ
*สรุปแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าเลนส์กรองแสง ก็คือ “เลนส์ที่ UV cut 99-100%”  ซึ่งจะปกป้องดวงตาให้ห่างไกลจากโรคที่มากับ UV ได้ค่ะ*

 

นัดล่วงหน้า แล้วมาพบกันที่ร้านนะคะ 
หมอฝ้าย จักษุแพทย์ 
Dr.Fine, M.D. Ophthalmologist  

February 18, 2024

Share this article :

Copied